ระเบียบวาระที่     เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา

               วาระที่ ๕.๓ การขอความเห็นชอบในการอนุมัติอาจารย์พิเศษกรณีสอนมากกว่าร้อยละ ๕๐

สรุปเรื่อง

ตามหนังสือจาก สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ อว ๐๒๒๔/ว๖๕๓ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ ชี้แจงแนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี

พ.ศ. ๒๕๕๘ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ “ในกรณีของอาจารย์พิเศษหากรายวิชาใดมีความจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรภายนอกมากกว่าร้อยละ ๕๐ สถาบันอุดมศึกษาก็สามารถ

ดำเนินการได้เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์สูงสุด แต่ต้องมีอาจารย์ประจำร่วมรับผิดชอบกระบวนการเรียนการสอนและพัฒนานักศึกษาตลอดการจัดการเรียนการสอนของรายวิชานั้นๆ ด้วย โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาสถาบันอุดมศึกษา ถือเป็นการดำเนินการ

ที่สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘” ทั้งนี้มีคณะและหน่วยงานที่มีความประสงค์

ขออนุมัติอาจารย์พิเศษ สอนมากกว่าร้อยละ ๕๐ ของรายวิชา จำนวน ๑ คณะ ๑ หน่วยงาน ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการวิชาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๓ ดังนี้

๑. คณะวิทยาการจัดการ ได้เสนอขอความเห็นชอบในการอนุมัติอาจารย์พิเศษ จำนวน ๒ ราย          

๒. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สระแก้ว ได้เสนอขอความเห็นชอบในการอนุมัติอาจารย์พิเศษ จำนวน ๑ ราย

ในการนี้ สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน จึงขอเสนอการขอความเห็นชอบในการอนุมัติอาจารย์พิเศษสอนมากกว่าร้อยละ ๕๐ จำนวน ๓ ราย ต่อคณะกรรมการสภาวิชาการเพื่อพิจารณา รายละเอียดดังแนบ

เอกสารและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

๑. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘

๒. หนังสือ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ อว ๐๒๒๔/ว๖๕๓ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ “เรื่อง ชี้แจงแนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี

พ.ศ. ๒๕๕๘ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ ในกรณีของอาจารย์พิเศษ”       

ประเด็นที่เสนอ

๑.  เพื่อพิจารณา

๒.  สุดแต่จะเห็นสมควรเป็นประการใด

มติคณะกรรมการ    

..................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................